
1. ความคาดหวัง “ลดดอกเบี้ย” ของ Fed
หนึ่งในแรงหนุนสำคัญคือความเชื่อที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะลดต้นทุนโอกาสของการถือทอง (เพราะทองไม่มีผลตอบแทนดอกเบี้ย) และทำให้ทองน่าสนใจมากขึ้น สำหรับนักลงทุน
นโยบายการเงินของ Fed จึงกลายเป็นจุดกดดันและแรงหนุนไปพร้อมกัน
2. ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์
จากสงครามในยูเครน ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ปัญหาการเมืองในหลายประเทศ ไปจนถึงการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ที่ถูกกดดัน — ทั้งหมดนี้ทำให้ทองกลับมาเป็นสินทรัพย์ “หลบภัย” ได้อย่างชัดเจน
3. ธนาคารกลาง & กองทุนทองคำ
ธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกยังคงทยอยซื้อทองเพื่อกระจายการถือครองสำรอง ส่วนกองทุนทอง (Gold ETFs) ก็ได้รับเงินไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดนี้ช่วยเสริมแรงให้ราคาทองยืนได้ในระดับสูง
แนวโน้ม & จุดที่ต้องจับตา
- ราคาทองกำลังมุ่งสู่การทดสอบแนวต้านใหม่ — นักวิเคราะห์บางรายคาดว่าอาจไปแตะ 4,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากแรงซื้อยังไม่อ่อน
- ถึงแม้ราคาจะพุ่ง แรงขายทำกำไร (profit taking) หรือแรงปรับฐานก็ยังเป็นความเสี่ยงที่ต้องระวัง
- การตัดสินใจของ Fed จะเป็นตัวแปรสำคัญ: ถ้าลดดอกเบี้ยตามคาด ราคาทองอาจยืนได้ แต่ถ้ายังเข้มงวดอยู่ ก็อาจเกิดแรงกดดันกลับลงมา
- นักลงทุนควรติดตามแนวรับสำคัญ เช่น ช่วง 3,700–3,900 ดอลลาร์ — หากราคาย่อลงมาในโซนเหล่านี้ อาจเป็นจังหวะเข้าซื้อ
Tuyên bố miễn trừ trách nhiệm: Quan điểm được trình bày hoàn toàn là của tác giả và không đại diện cho quan điểm chính thức của Followme. Followme không chịu trách nhiệm về tính chính xác, đầy đủ hoặc độ tin cậy của thông tin được cung cấp và không chịu trách nhiệm cho bất kỳ hành động nào được thực hiện dựa trên nội dung, trừ khi được nêu rõ bằng văn bản.
Tải thất bại ()